วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

ปรับขยายด่านสะเดา-ปาดังเบซาร์ รองรับเขต ศก.พิเศษ

2 ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย เร่งปรับขยายด่านรอรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ย้ำเป็นที่ 1 ของการส่งออกในภูมิภาคของไทย ตัดพ้อรัฐให้ความสำคัญชายแดนน้อย
วันที่ 29 ก.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง 2 ด่าน ระหว่างด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ เร่งวางแผนปรับขยายด่านรอรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ย้ำเป็นที่ 1 ของการส่งออกในภูมิภาคของไทย โดยนายกฤษฏา ทองธรรมชาติ นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศให้พื้นที่ในอำเภอสะเดา อยู่ในโซนเขตเศรษฐกิจพิเศษ 1 ใน 5 เขตทั่วประเทศ ในระยะแรก ประกอบด้วย อ.แม่สอด จ.ตาก ชายแดน จ.มุกดาหาร ชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชายแดน จ.ตราด และ อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมแต่งตั้ง คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ในคำสั่ง คสช. ที่ 72/2557 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2557 โดยได้มอบนโยบายเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมุ่งหมายให้เป็นส่วนหนึ่ง ของโรดแม็ป คสช. ในการสนับสนุนการนำประเทศเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ และช่วยรักษาความมั่นคงของประเทศ
นายด่านปาดังเบซาร์ กล่าวถึง เขตพัฒนาเศรฐกิจใน อ.สะเดา ว่าบริเวณพื้นที่ที่ กนพ. กำหนดให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งรัฐจะสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน สิทธิประโยชน์การลงทุน สนับสนุน เอสเอ็มอี การลงทุนต่อเนื่องของไทยในประเทศเพื่อนบ้าน จัดระเบียบพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และสินค้าเกษตรลักลอบจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งประตูทางใต้ของไทยบนแนว NSEC ที่ด่านปาดังเบซาร์ ถือเป็นช่องทางการขนส่งทางระบบรางเป็นหลักของประเทศ เชื่อมต่อกับมาเลเซีย สู่สิงคโปร์ใกล้ท่าเรือปีนังและท่าเรือกลางของมาเลเซียประมาณ 177 กม. อยู่ใกล้พื้นที่อุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมฮาลาล ของมาเลเซียซึ่งขณะนี้กำลังสร้างระบบเอกซเรย์สินค้ามูลค่า 500 ล้านบาท และอยู่ในขั้นตอนเตรียมพร้อมการสร้างระบบเอกซเรย์สินค้าคร่อมรางรถไฟในเร็วๆ นี้
ส่วนนายกรีชา เกิดศรีพันธ์ นายด่านสะเดา เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ด่านสะเดาเน้นการส่งออกส่วนต่อขยายจากนิคมอุตสาหกรรมในภาคกลาง และนิคมอุตสาหกรรมในภาคใต้ รองรับอุตสาหกรรมเชื่อมโยง เพื่อการส่งออกผ่านระบบโลจิสติกส์ทางถนน เชื่อมโยงจากชายแดนไป กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จนถึงประเทศสิงคโปร์ สินค้าขนส่งต่อเนื่องประเภทยางพารา อาหารฮาลาล อาหารทะเล และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันพื้นด่านสะเดามีการจราจรแออัด ขาดแคลนแรงงาน สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม ขาดการบริหารจัดการตลาดสินค้าเกษตรครบวงจร ไม่มีรูปแบบแผนการพัฒนาเมือง ซึ่งในระยะแรกด่านสะเดา ได้ทำการขยายปรับปรุงด่านในเนื้อที่ 22 ไร่ โดยใช้งบประมาณลงทุนกว่า 80 ล้าน ในเฟสแรก ไม่รวมค่าเวนคืนที่ดินกำลังดำเนินการก่อสร้าง กำหนดแล้วเสร็จในกลางปีหน้า เพิ่มช่องทางการตรวจสอบหนังสือเดินทางเป็น 20 ช่องในด้านขาออก ส่วนขาเข้าเพิ่มช่องทางรถขาเข้าเป็น 20 ช่อง พร้อมช่องระบบตรวจสอบศุลกากร จะเริ่มก่อสร้างส่วนขยายด่านขาเข้าปลายปีหน้า ในงบประมาณที่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามทั้งด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ มีมูลค่าการค้าชายแดนปี 2556  เฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่าปี 2552-2556 โดยด่านสะเดา 330,022.68 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.1 ต่อปี ส่วนด่านปาดังเบซาร์ 163,308.62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.2 ต่อปี ขณะที่ถนนมอเตอร์เวย์ ของการทางพิเศษสายหาดใหญ่-ด่านสะเดา กำลังอยู่การอนุมัติโครงการของรัฐบาล พร้อมการพัฒนารถไฟรางคู่ เส้นทาง หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ขณะเดียวกันทางการมาเลเซียได้เตรียมก่อสร้างไว้รอท่าจนเสร็จสิ้น เพื่อรอการรถไฟของประเทศไทยมาเชื่อมต่อในเร็วๆ นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น