ณ เวลานี้คงไม่มีพื้นที่ไหนที่จะถูกพูดกล่าวขานถึงอย่างมากมายเหมือนเช่นพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเติบโตสูงสะท้อนภาพผ่านกลุ่มนายทุนใหญ่ของไทยที่ประสบความสำเร็จระดับหมื่นล้านแสนล้านบาทต่างมุ่งหน้างัดที่ดินเก่าหรือซื้อที่ใหม่เข้ามาเพิ่มแข่งผุดโปรเจคยักษ์ประชันกันแบบไม่มีใครยอมใครซึ่งมองได้หลายมุมทั้งในรูปแบบการแข่งขันและเอื้อธุรกิจซึ่งกันและกันมุ่งหวังรับตลาดการค้า การลงทุนเสรีภายใต้กรอบตกลงต่างรวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC
ไล่เรียงกลุ่มทุนใหญ่ที่เข้าลงทุนทั้งสองฝากฝั่งริมน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำที่ได้ชื่อว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทยนั้น อาทิ บริษัททีทีซีแลนด์ จำกัด ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือทีทีซีของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ได้ทยอยลงทุนมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงโครงการใหญ่ภายใต้ชื่อ เอเชียทีค 1 ฝั่งเจริญกรุงและมีแผนที่จะลงทุนโครงการเอเชียทีค 2 ริมน้ำเจ้าพระยาและติดถนนเจริญนครใกล้ซอย 17 เนื้อที่ประมาณ 29 ไร่
“ไอคอนสยาม” โครงการ 50,000 ล้านบาทของสามพันธมิตรภาคเอกชน ได้แก่ สยามพิวรรธน์ ร่วมกับ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทชั้นนำของไทยที่มีการลงทุนในระดับโลก การผนึกทุนกำเนิดสัญลักษณ์ใหม่แห่งสยาม ที่ไอคอนสยามรวมพลังกับภาครัฐและภาคเอกชน กว่า 30 โครงการ เนรมิตพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายาว 10 กิโลเมตร ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของโลก
นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนธุรกิจของกลุ่มนายสดาวุธ เตชะอุบล ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ ที่กำลังตอกเสาเข็มก่อสร้างโครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์ มูลค่า 29,000 ล้านบาท ซึ่งนั่นเป็นเพียงกลุ่มทุนตัวอย่างบางส่วนที่มีการเคลื่อนไหวการลงทุนในย่านริมน้ำเจ้าพระยา และที่สำคัญยังต้องจับตามองว่ากลุ่มทุนใดจะคว้าที่ดินระดับพรีเมี่ยมผืนงาม ขนาด10 ไร่เศษ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร การเดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีตากสินใกล้ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD)ปัจจุบันที่ดินเป็นศูนย์กระจายสินค้าของ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)
ดูชื่อชั้นรายชื่อกลุ่มทุนที่เปิดแผนลงทุนในครั้งนี้แม้จะเป็นเพียงบางส่วนแต่ก็นั่งมโนในใจถึงทัศนียภาพริมน้ำในอนาคตที่งดงามและบรรยากาศร่มรื่นจากสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงที่ดินรายล้อมไปด้วยโรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาว 6 ดาว คอนโดหรูรวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์หลายโครงการที่อำนวยความสะดวกสบาย ที่ดินศักยภาพสูงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพัฒนาเป็นโครงการพาณิชยกรรม โรงแรมหรือที่อยู่อาศัยระดับไฮเอ็น
... เพราะมีปัจจัยพื้นฐานที่ได้เปรียบ คือตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางธุรกิจ ประชากรมีกำลังซื้อสูง ใกล้ทางด่วน เส้นทางสัญจรสะดวกและไม่ไกลจากรถฟ้า ซึ่งการเติบโตในย่านนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนย่านใจกลางเมืองชะลอตัวลงเพราะที่ดินมีราคาสูงส่งผลให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในเมืองทางสาทรสีลม สุขุมวิทขยับสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมทางฝั่ง “เจริญนคร” ที่ถึงแม้ราคาจะค่อยๆขยับขึ้นแต่เมื่อเทียบกับทำเลซีบีดีย่านสาทร สีลม สุขุมวิท ซึ่งพบว่าคอนโดมิเนียมย่านถนนเจริญนครยังอยู่ระดับราคา 90,000-100,000 บาทเศษๆไม่สูงนักเศรษฐีย่านนั้นจับต้องได้
ด้วยเหตุนี้ พบว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งขนาดกลางขนาดใหญ่ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างเจ้าไปยึดพื้นที่จับจองที่ดินเพื่อขึ้นโครงการคอนโดเพื่อตอบรับกำลังซื้อและความเจริญที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาไม่ว่าจะเป็นทางเสนดีเวลลอปเม้นต์ ,อนันดา, แสนสิริ ,แลนด์ แอนด์เฮ้าส์ และพฤกษา เรียลเอสเตท ที่พร้อมใจกันพัฒนาหลายโครงการในย่านนี้ รวมถึงโครงการหรูที่พร้อมอยู่อย่างโครงการ Urbano Absolute ที่เคยได้รับรางวัล Best High-Rise Architecture จากงาน Asia Pacific Property Awards เมื่อปี 2011 ที่ถูกกล่าวขวัญชื่นชมจาก กลุ่ม Property review เว็บไซต์ ว่ามีที่สุดของส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น Infinity edge Swimming pool ที่เหมือนแหวกว่าย อยู่บนท้องฟ้า มองวิวคุ้งน้ำเจ้าพระยาสุดงามทั้งยามกลางวันและกลางคืน ที่ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ห้อง จากทั้ง 593 ห้อง ซึ่งถ้าตอนนี้ใครที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของห้อง Duplex สองชั้น สุดหรู 160 ตรม. เริ่มที่ราคา 15 ล้าน บอกสั้นๆเลยว่าห้องใหญ่สุดอลังกาล เสพวิวมุมสูงสุดสายตา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็มครบครัน
กล่าวโดยสรุปทำเลสองฝากฝั่งริมน้ำเจ้าพระยาจากนี้ไปคงคึกคักคึกครื้นเทียบแล้วก็คงไม่ต่างจากมหานครใหญ่แห่งอื่นๆทั่วโลกเช่น กรุงลอนดอน ปารีส มหานครเซี่ยงไฮ้ จะเห็นว่าที่ดินในเมืองบริเวณริมฝั่งแม่น้ำจะเป็นศูนย์รวมความเจริญ เป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวและที่ดินมีราคาสูงกว่าทำเลอื่นๆ มูลค่าของที่ดินริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต…โดยเฉพาะย่าน “ถนนเจริญนคร” ที่จากนี้ไปลบทิ้งภาพที่อดีตเปลี่ยนมุมองใหม่ของคนทั่วไปว่า ที่จะเจริญสมชื่อชั้นที่ว่า “เจริญนคร” ที่รองรับการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทั้งโรงแรม แหล่ง ชอปปิง ที่พักอาศัย ศูนย์ประชุมและการก่อสร้าง เส้นทาง ทำให้ทำเลบริเวณนี้กลายเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่อีกแห่งของกรุงเทพฯ ที่พร้อมให้คนทั้งโลกหันกลับมามองแม่น้ำสายนี้ที่ได้ชื่อว่า เป็นเส้นเลือดใหญ่ หล่อเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศอีกครั้งในฐานะศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครที่มีศักยภาพมากที่สุด เชิดชูภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯในฐานะเมืองศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ผู้คนอยากอยู่อาศัยมากบนผืนดินที่งดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนะธรรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น