วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

"เกรท"ถูกจริต"แมท" จับคู่จิ้นกระแสเปรี้ยง


 



"เกรท"ถูกจริต"แมท" จับคู่จิ้นกระแสเปรี้ยง


อนงค์ จันทร


ไปไหนมาไหนตอนนี้มีแต่คนเรียก "สิปา สิปา" ตัวละครใน "รักต้องอุ้ม" ที่พระเอกหนุ่ม "เกรท"วรินทร ปัญหกาญจน์ หวนจับคู่จิ้นกับสาว "แมท"ภีรนีย์ คงไทย ในบท "สิปาดัน" กับ "ลันตา" จนโด่งดัง

เพราะกระแสที่ดังจนฉุดไม่อยู่ เลยไม่พลาดเกี่ยวก้อยหนุ่มเกรทมาพูดคุย



กระแสละคร "รักต้องอุ้ม" ตอบรับกลับมาดีรู้สึกอย่างไร

เกรท - "ดีใจครับ คนจะคิดว่าละครเรื่องนี้เป็นคอมเมดี้ แต่จริงๆ กลางเรื่องมาถึงท้ายๆ ค่อนข้างดราม่าพอสมควร กระแสที่ตอบกลับมาทำให้หายเหนื่อย"



เล่นกับเด็กอย่างน้องเทรย์ ไทซัน เป็นยังไงบ้าง

เกรท - "ยากครับ เพราะเมื่อก่อนเขายังเด็กมาก วางไว้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ไม่ร้องไห้ แต่พอเริ่มโตเริ่มรู้เรื่อง พอไม่เห็นแม่ก็ร้องไห้ เรียกว่ายากเลยทีเดียว ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเยอะ ถ่ายกันมา 6-7 เดือน ตอนนี้ก็ยังถ่ายไม่เสร็จ เด็กเขาโตแล้ว จากที่พลิกตัวยังไม่ได้ ตอนนี้เดินได้แล้ว ตามเรื่องจริงๆ เด็กต้องยังไม่โตขนาดนี้ เรื่องมันเกิดประมาณ 2 เดือน ภาพเด็กโดดแน่นอน"



ทำงานกับเด็กต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง

เกรท - "เตรียมใจไปก่อน ต้องใจเย็น เซฟพลังตัวเองให้มากที่สุด เพราะฉากไหนที่เล่นกับเด็ก เหมือนเล่นสองฉาก เพราะเราต้องโฮลด์เด็กด้วย เพื่อให้การถ่ายทำง่ายขึ้น นอกจากโฮลด์บทตัวเองแล้วยังต้องเทกแคร์เด็กให้มากที่สุด และทำให้ทีมงานพร้อมที่สุด มันต้องใช้พลังเยอะ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี"



เรื่องนี้กลับมาเล่นกับ "แมท" อีก

เกรท - "ครับ หลังเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ กุหลาบร้ายกลายรัก ลิขิตเสน่หา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 กำลังจะมีเรื่องที่ 4 "ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ" แล้วก็มีหนังสั้น 1 เรื่อง เอ็มวี อีก 1 เรื่อง ซึ่งเล่นด้วยกันกี่เรื่องคนก็ชอบนะ"



ดูคู่เราถูกจริตกัน

เกรท - "จริงนะ เล่นกับแมทแล้วโอเค ด้วยมีมุมนึงที่คลิกกัน จะบอกว่าความปัญญาอ่อนก็ได้ ความขี้เล่นก็ได้ เขาชอบคนที่ยอมเขา เวลาเขาเล่นอะไรมาเราก็ยอม เลยสนิทกัน ด้วยวัยที่ไม่ต่างกัน เจอกันตั้งแต่แรกๆ และด้วยบท "รักต้องอุ้ม" มันเป็นตัวของกันและกัน แต่ที่ไม่ตรง ตรงที่ต้องมารักกันมากขึ้น มันจั๊กเดียม"



"เราไม่ได้เจอกันบ่อย แต่เจอกันกี่ครั้งก็จูน กันติดง่าย แมทเล่นละครเก่ง ซึ่งเราเปิดรับสิ่งที่เขาส่งมาให้หมด แล้วทำของเราให้ดีที่สุด สบายที่ร่วมงานกับเขา เพราะรู้ทิศทางการทำงานร่วมกัน แมททำงานดี ใส่ใจการทำงาน เราไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น เอาตัวเองให้รอดก็พอ"



เป็นพระเอกที่มีละครต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ดังมาก



เกรท - "ตัวผมไม่ค่อยคาดหวัง มีหลายคนพูดกับผมว่ามีละครเยอะแต่ไม่ดังเปรี้ยงปร้าง ก็ต้องถามกลับว่าจะเอาเปรี้ยงขนาดไหน ดังระดับไหน ระดับเจมส์-จิ เหรอ จะตั้งอย่างนั้นทำไม สำหรับผมไม่คิดว่าดังเท่าใคร แค่ทำงานทุกชิ้นให้ดี พองานออกมามีคนชมว่าเล่นแล้วเขาเชื่อว่าเป็นตัวละครนั้นผมพอแล้ว หลายๆ อย่างมันมาเอง ทุกวันนี้ความนิยมความมีชื่อเสียงประมาณนี้ผมแฮปปี้แล้วนะ ไม่ได้ต้องการจะมากกว่านี้แล้ว มันกำลังดี"



ถ้าดังมากๆ กลัววางตัวยาก

เกรท - "นั่นคือส่วนนึง ไม่ใช่ไม่อยากดัง ถ้าคุณดังมากก็แสดงว่ามีคนตอบรับคุณมาก นั่นการันตีว่าคุณจะงานเยอะ แต่สำหรับผมไม่ได้เอาความดังมาเป็นเมนหลัก ผมเอาฝีมือเอาคุณภาพความใส่ใจในการทำงานให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องความดังเป็นเป้าหมายรองลงมา"



ทำงานวงการมา 6 ปี เป็นอย่างไรบ้าง

เกรท - "ผมมองว่าเส้นทางของเราที่จะเดิน บางครั้งมันถูกกำหนดมา ตัวผมเริ่มต้นเข้าวงการจากศูนย์ ไม่มีคนดูแล มา บอกว่าเกรทแต่งตัวดีๆ ต้องทำอย่างนี้นะถึงจะดี ออกไปต้องไหว้ ผมไม่มี ผมเข้าวงการเพราะพี่ที่โมเดลลิ่งแนะนำ พอเข้ามาก็เจอพี่ที่ช่อง 3 เขาก็บอกในเบื้องต้น แต่ด้วยบุคลิกเราเป็นตัวเราเองมาตั้งแต่แรก เล่นละครโดนด่าโดนชม มีข้อเสียข้อดีหลายๆ อย่าง เรามาอย่างบ้านๆ มันเลยเป็น สเต็ปของมันที่โดนขัดเกลาจนมายืนอยู่ตรงนี้ จนรู้ว่าแบบนี้ไม่โอเค แบบนี้ดี พอประสบ การณ์มันสอน ทำให้ฐานแข็งแกร่ง"



"ผิดกับคนที่อยู่ๆ มาเปรี้ยง แสดงว่าเขาพร้อมมาแล้วถูกเทรนมาแล้ว คนอย่างนี้โชคดี ยิ่งทำงานไปเรื่อยๆ ใส่ฐานที่แน่นเข้าไปอีกยังไงก็ไปได้ไกล แต่คนกลุ่มนี้ถ้าไปเจอในจุดที่ยากแบบที่ผมเคยผ่านมาอาจจะรับมือไม่ได้ดีเท่าผม อันนี้คือความรู้สึกผม ผมก็ขอบคุณเส้นทางของผมที่เป็นแบบนี้ ทำให้ผมโตด้วยตัวเอง รู้ว่าสถานการณ์ไหนรับมือกันมันได้ ถือเป็นเส้นทางที่เราแฮปปี้กับมัน"



อยู่ยากไหมวงการบันเทิง

เกรท - "ผมเป็นคนไม่ค่อยคิดมาก ตั้งแต่อยู่มายังไม่เจอเรื่องที่แย่มากๆ ข่าวทำจมูกก็เคย เป็นเกย์ก็บ่อย จิ้นกับผู้ชาย เป็นเด็กคนโน้นคนนี้เป็นลูกรัก แล้วก็เคยมีข่าวกระทบคุณแม่ว่าแม่มีตังค์จะให้ลูกเป็นพระเอกเมื่อไรก็ได้ กระทบแม่อันนี้ปรี๊ด เรื่องโดนด่าเกี่ยวกับฝีมือ เรื่องไม่หล่อ อันนี้ปรี๊ดบ้าง อยากเห็นหน้าว่าคนพูดหล่อหรือเปล่า แต่ก็ต้องยอมรับความจริงถ้าสิ่งที่เขาติเป็นความจริง เราก็ต้องดูแลและใส่ใจตัวเองให้มากขึ้น เอาคำติมาผลักดันตัวเอง ติอย่างมีเหตุผล ถึงเจ็บแต่ผมน้อมรับ"





วางแผนงานในวงการบันเทิงอย่างไร

เกรท - "ผมยังสนุกอยู่ แต่ก็พยายามไม่เอาความสำเร็จในวันนี้ เก็บไปยิ้มในวันพรุ่งนี้ หรือเก็บไปหลงระเริงในวันข้างหน้า เอามันมาเป็นกำลังใจ แต่อย่ายึดติด ฉะนั้นแผนในวงการบันเทิงผมจะอยู่อย่างระมัดระวัง ทุกวันนี้ยังรักการทำงานเบื้องหน้า อยู่นานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอยู่ตรงนี้แล้วแฮปปี้"



ป๋าดัน

อยู่วงการมา 6 ปี เล่นละครประกบนางเอกมาค่อนข้างเยอะ โดยหนุ่ม "เกรท-วรินทร" เล่าว่า "ที่ผ่านมาได้เล่นคู่กับนางเอกหลายคน ก็มี ชมพู่-อารยา, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, พี่เชอรี่-เข็มอัปสร, พี่เบนซ์- พรชิตา กับ 4 คนนี้เจอตอนที่เรายังเด็ก ตอนนั้นกระแสไม่ค่อยดี เราเองยังไม่โตในเรื่องฝีมือ โดนว่าเยอะเรื่องการแสดง ซึ่งที่ผ่านมาก็เรียนการแสดงมาตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ มันเป็นศาสตร์ที่เรียนไม่จบ"

"แล้วก็มาเจอ แพท-ณปภา, น้องพรีม-รณิดา, อาย-กมลเนตร, หยาดทิพย์ แต่ที่เจอบ่อยสุดคือ แมท-ภีรนีย์ พอเราทำงานมาเยอะประสบการณ์มันสอนในเรื่องต่างๆ ความมั่นใจของเราค่อยๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ทุกวันนี้กราฟชีวิตค่อยๆ ขึ้น"

หลังฝึกฝนเก็บเกี่ยวชั่วโมงบินจนฝีมือแสดงพัฒนา ตอนนี้ก้าวมาเป็นป๋าดัน ซึ่งเกรทกล่าวว่า "ผมยินดีมากๆ ที่จะดันน้อง แต่จะบอกเป็นป๋าดันซะทีเดียวก็ไม่ถูก ถ้าผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสมที่น้องเด็กใหม่มาเล่นประกบกับเราก็ยินดี ไม่ว่าจะเป็นใคร ขออย่างเดียวให้ตั้งใจและใส่ใจการทำงาน เล่นไม่เก่งไม่ใช่ประเด็น เพราะผมเคยเล่นห่วยมาก่อน อย่างน้อยที่สุดคุณทำการบ้านในส่วนตัวคุณมาให้พร้อม เล่นดีไม่ดีเป็นหน้าที่ของผู้กำกับฯ ความมีระเบียบวินัยสำคัญที่สุด จะเล่นสัก 5-10 เทกก็ไม่เป็นไร ผมรอได้"

เล่นละครมาหลายเรื่องหลายบท บทแบบไหนที่อยากเล่นมากที่สุด เกรทตอบ "ผมอยากเล่นเป็นตำรวจ อยากเป็นเหมือนพ่อ อยากใส่เครื่องแบบตำรวจดู ผมว่าตำรวจเป็นอาชีพที่มีเกียรติ การที่เราได้เล่นอะไรแล้วใส่เครื่องแบบผมรู้สึกว่ามันมีฟีลนั้น และอยากเล่นบู๊เต็มๆ ก็อยากลองดูครับ"

อย่างนี้ผู้จัดน่าจัดให้สักเรื่อง



ความรักคือการให้ ชอบสาวมีธรรมะในหัวใจ

มาถึงเรื่องความรักของหนุ่มอารมณ์ดีวัย 29 ปี "เกรท-วรินทร" ซึ่งที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีข่าวเป็นเกย์มากกว่ามีข่าวกับสาวๆ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวบอกว่า "เรียกว่าผมระวังตัวดี (หัวเราะ) ทั้งๆ ที่คนบอกว่าผมเป็นคนเจ้าชู้ แต่ก็ไม่ค่อยมีข่าวกับผู้หญิง จะมีข่าวก็แต่กับผู้ชาย (หัวเราะ)" จากนั้นเจ้าตัวยืนยัน "ผมก็ยังรักผู้หญิงเหมือนเดิม"



"ถ้าให้ผมเรียงลำดับความสำคัญ ณ วันนี้ ความรักยังคงมาเป็นอันดับ 3 รองจากครอบครัวและงาน ส่วนเพื่อนสำคัญเท่ากับความรัก แต่ความรักพอมีแล้วทำให้ชีวิตสดใส แต่เมื่อไรที่ความรักทำให้เหนื่อยทำให้ปวดหัวก็ควรต้องพัก"



ตอนนี้เรียกว่ามีคนคุย แต่ไม่เปิดเผย หนุ่มเกรทฉีกยิ้มกว้างตามสไตล์ "ก็มีคุยบ้าง ที่มีข่าวก็ น้องดาว(พิมพ์ทอง วชิราคม) ก็คุยกัน มีช่วงนึงที่คุยกันบ่อย หลังจากนั้นก็สนิทกับน้อง ฝากซื้อของบ่อย เล่นละครด้วยกันเขาก็เห็นเราเป็นพี่ชาย มีปรึกษาเรื่องข่าวบ้าง ผมเป็นคนไม่ชอบเปิดเผยเรื่องความรักกับสื่อ เพราะความรักเป็นเรื่องของคนสองคน พอเป็นเรื่องส่วนรวมจากปัญหาของคนสองคน จะกลายเป็นปัญหาส่วนรวม"



พระเอกหนุ่มเป็นคนที่แคร์เรื่องความรักมาก โดยเขาว่า "ถ้ามีคนมาพูดถึงคนที่ผมรักไม่ดี ผมก็รู้สึกไม่ดี แค่คนเข้าใจผมผิดก็ไม่ดีแล้ว กระแสสังคมไทยพูดตรงๆ มองมุมลบมากกว่าบวก"



ระวังตัวอย่างไร เวลาไปกินข้าว ดูหนังหรือเดินเที่ยวกับคนที่คบอยู่ เกรทเผยว่า "เลือกสถานที่บ้าง ทำตัวไม่หล่อบ้าง (หัวเราะ) วันปกติผมใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ใส่หมวก หนวดไม่โกน ผมไม่ทำ อย่างมุมนึงเวลาเราใช้ชีวิตธรรมดาก็อยากหล่อแหละ แต่ก็ไม่ได้อยากไปเดินตรงนั้นเพื่อเป็นที่รู้จัก ถ้าจะไปไหนระวังตัวพอสมควร แต่อย่าให้ถึงขั้นใช้ชีวิตลำบากไปไหนไม่ได้ ให้อยู่ตรงกลางให้มากที่สุดระหว่างโลกบันเทิงและโลกของชีวิตจริง"



คนที่คุยด้วยไม่ว่าอะไรเหรอ ระวังตัวขนาดนี้ "เขาต้องรับได้ ในเมื่อเราเลือกจะเป็นอย่างนี้"



พร้อมเปิดตัวเมื่อไร เพราะเรื่องแบบนี้ปิดกันลำบาก "มันปิดกันไม่ได้ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะพูดหรือเปล่า ผมยังไม่มั่นใจในหลายๆ อย่างที่ผมคุยอยู่ ตอนนี้ทำงานก่อน เรื่องความรักก็ชมพูบ้าง เทาบ้าง คุยบ้าง ไม่คุยบ้าง โสดครับ"



ถามถึงมุมมองความรัก เจ้าตัวแง้ม "รักก็ยังคงตรงตัวกับคำว่าให้ เสียสละ อยากให้อีกคนมีความสุข นั่นเป็นมุมมองความรักของผม ถ้าเรารักเขาแล้วอยากเห็นเขามีความสุขมากกว่าที่จะรั้งเขาไว้กับตัวเอง มันเป็นเรื่องจริงนะ คือยอมให้เขาไปทั้งที่รักกันอยู่ อันนี้ผมเคยเจอ มันไปด้วยกันไม่ได้จริงแต่รักไหม รักครับ"



ว่าที่ภรรยาและแม่ของลูกในอนาคตเป็นอย่างไร "เรื่องแต่งงานตอนนี้ยังไม่คิด ถ้าจะมีจริงๆ เขาต้องรับความเป็นตัวตนของผมได้ อยากให้แม่ของลูกในอนาคตเป็นคนที่คล้ายๆ เรา ขอให้เป็นคนมีธรรมะในหัวใจและเป็นคนใจดี เป็นคนเก่ง ปกป้องตัวเองได้ เรื่องความสวยมารองจากนิสัย แต่ก็ไม่ถึงกับไม่สวยเลย คือต้องผสมกับนิสัย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น