วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รถไฟชนจยย.กระเด็นดับ1 ศ

รถไฟชนจยย.กระเด็นดับ1 ศ


เมื่อเวลา  13.00 น. วันที่ 24 ธ.ค.57 ร.ต.ท.คิมหันฐ์ ศรีสุพรรณ พงส.สน.ลาดกระบัง รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุถูกรถไฟเฉี่ยวชน ที่บริเวณหลังโรงเรียนวัดลาดกระบัง(ศีลาภิรัตอุปถัมภ์) ภายในซอยร่มเกล้า 27 ถนนร่มเกล้า แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็ก บริเวณริมทางรถไฟพบศพนายรุ่งธรรม สมบูรณ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ซ.มอเตอร์เวย์ 19 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่เลียบทางมอเตอร์เวย์ นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างริมรถไฟ สภาพศพกระดูกกักทั่วทั้งร่าง ใกล้กันพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ซีซี สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สทษ 793 กทม. ในสภาพพังยับเยิน โดยได้เฉี่ยวชนกับรถไฟสายอรัญประเทศ-กรุงเทพ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปผ่าพสูจน์ที่สถาบันนิติเวชรพ.ตำรวจ

จากการสอบสวนนางมณี แม้นรัตน์ อายุ 45 ปี ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่า ขณะเกิดเหตุนายรุ่งธรรมได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าให้เดินทางขับรถไปซื้ออาหาร ก่อนจะขับรถจยย.ออกจากที่พัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางข้ามทางรถไฟที่ชาวบ้านในละแวกนั้นทำขึ้นมาเพื่อใช้สัญจร แต่มีความลาดชัน ผู้ตายได้ขับขี่รถจยย.ขึ้นไปทันที ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวรถไฟได้ผ่านมาพอดี จึงเกิดเหตุสลดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจกับเหตุที่เกิดขึ้นก่อนรับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

รายงานข่าวระบุว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านได้ทำทางตัดผ่านทางรถไฟขึ้นมา เพื่อใช้สัญจร และใช้เดินทาง และเคยเกิดเหตุการณ์รถไฟเฉี่ยวชนผู้ที่ใช้เส้นทางมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยมีใครเสียชีวิต โดยทางชาวบ้านได้เคยติดต่อไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ติดแผงกั้น หรือ สัญญาณเตือนรถไฟ แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าดำเนินการและอ้างว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่ใช่จุดเสี่ยง รวมถึงงบประมาณในการจัดการไม่เพียงพอ

ด้าน นายพรสุทธิ ทองสาด หน.สนง.รฟท. ผู้ดูแลด้านความปลอดภัยในการเดินรถ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนกับรถจักรยานยนต์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว โดยบริเวณดังกล่าว เป็นทางแอบผ่านที่อยู่ในพื้นที่ของสถานีรถไฟลาดกระบัง สาเหตุเกิดจากชาวบ้านไม่ระมัดระวังข้ามทางรถไฟโดยไม่สังเกตว่ามีขบวนรถไฟผ่านมา ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวมักจะมีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงได้ทำขึ้นเป็นทางผ่านเพื่อใช้สัญจรผ่านไปมา โดยจุดดังกล่าวสามารถผ่านได้เฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น เพราะเป็นทางไม่กว้าง ทางเจ้าหน้าที่พยายามป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยทำป้ายเตือนให้ระวังรถไฟ และเคยมีข้อพิพาทกับประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถปิดทางดังกล่าวได้ เพราะประชาชนต้องกลับรถไกล ซึ่งมาตรการต่อไปอาจต้องหาวิธีการในการป้องกัน โดยประชาชนที่จะข้ามทางจะต้องระมัดระวังตนเองให้มากขึ้น ให้สังเกตป้ายเตือน และทางเหน้าที่อาจจะต้องติดตั้งไฟวาบเตือน เพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก ที่มา http://www.banmuang.co.th/news/crime/4806

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น