วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เจ้าสัวธนินท์ปิ๊งไอเดียกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินพนักงานช็อปปิ้ง

เจ้าสัว “ธนินท์” เสนอไอเดีย ให้เอกชนแจกเงินพนักงานไปช็อปปิ้ง แล้วนำยอดมาหักภาษีได้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก เปรย “ซีพี” สนใจลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ จ.สระแก้วและ จ.ตาก ด้าน “โออิชิ” เชื่อรัฐจัดงานขายของถูก ช่วยกระตุ้นบรรยากาศจับจ่ายใช้สอย
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กล่าวในการร่วมเปิดงานการลดราคาจำหน่ายสินค้าเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ “เทใจ คืนสุข สู่ประชาชน” ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ได้เสนอแนว ความคิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ทุกบริษัทแจกเงินพนักงานแล้วนำยอดวงเงินที่แจกมาหักลดภาษีได้ เพื่อให้พนักงานนำเงินที่ได้รับแจกไปใช้จ่ายซื้อสินค้า โดยบริษัทไม่ต้องไปซื้อของหรือจัดงานให้พนักงาน ทำให้พนักงานมีความคิด มีอิสระในการตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งจะช่วยให้การซื้อขายสินค้ามีความคึกคักกว่านี้อีก
“ทุกวันนี้คนไม่กล้าจับจ่าย ถ้าให้เงินคนมีรายได้น้อย รู้ไหมเขาจะหมุนเงินใช้อีก 10 รอบ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เขาจะซื้อของกิน ของใช้ ของที่ผลิตในประเทศ ไม่มีทางซื้อหลุยส์ วิตตอง กระเป๋าแพงๆ หรอก แต่ถ้าเงินไปตกที่คนมีเงินอยู่แล้ว คนที่มีพร้อมทุกอย่างก็เอาเงินเข้าธนาคาร ก็ไม่เกิดการหมุนเงิน เมื่อคนมีรายได้น้อย ต้องทำให้มีรายได้มากขึ้น ซีพีก็ได้ประโยชน์ อย่านึกว่า เขามาจับจ่ายผมก็มีรายได้ เพราะถ้าเขายากจน ซีพีก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันนะ อย่าเข้าใจผิดมีคนถามว่า นี่ผมรักเมืองไทยหรือไม่ ผมบอกเลย ผมรักเมืองไทยมากกว่าคนอื่น รักไม่แพ้คนอื่น ถ้าเมืองไทยมีปัญหาผมจะเสียหายหนัก ผมก็ต้องรักเต็มที่ ผมจึงอยากจะให้ยกระดับคนมีรายได้น้อยให้ดีขึ้น ให้ถูกต้อง ไม่ใช่เงินกระจุกอยู่กับคนร่ำรวยจำนวนไม่มาก”
สำหรับการจัดงานลดราคาสินค้าครั้งนี้จะมีเงินสะพัด 50,000 ล้านบาท และอาจเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาท หากเงินไปถึงคนมีรายได้น้อยเพราะจะมีรอบการหมุนของเงินถึง 10 รอบ ทำให้โรงงานผลิตของขายได้ด้วย รัฐบาลคือ ผู้ที่ประชาสัมพันธ์กระจายสินค้าไประดับล่าง แม้สุดท้ายเอกชนอาจจะเสียบ้าง แต่เสียเพียงชั่วคราว ระยะยาวจะเป็นประโยชน์ในระดับกว้าง ดังนั้น ต่อไปต้องมาวางแผนกันให้คนข้างล่างยั่งยืนขึ้น
นายธนินท์ยังกล่าวถึงเศรษฐกิจโลกขณะนี้ด้วยว่า เศรษฐกิจเอเชียสะเทือนเพียงเล็กน้อย อย่างไทยก็ขายของในประเทศเอเชียด้วยกันกว่า 50% สมัยก่อนไทยต้องพึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรปเกินกว่า 50% แต่วันนี้เราพึ่งอเมริกา ยุโรปไม่เกิน 20% อีก 30% ขายให้ทั้งรัสเซีย ประเทศตะวันตก ตะวันออก ดังนั้น จึงต้องวางแผนสู่ตลาดเอเชียสำหรับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนของรัฐบาลนั้น ทางซีพีต้องการไปลงทุนอยู่ 2 แห่ง คือ ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
ขณะที่นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้นำเครื่องดื่มโออิชิทุกประเภท และเครื่องดื่มเอส ขนาด 1 ลิตร และ 1.6 ลิตร มาร่วมโครงการกับรัฐบาล โดยราคาลดลง 30-50% จัดจำหน่ายผ่านทางห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่ละแห่งไม่เท่ากัน จำนวนกว่า 100,000 ลัง ซึ่งเพียงพอที่จะจำหน่ายในช่วง 7 วันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เชื่อว่าการจัดโครงการลดราคาจำหน่ายสินค้าครั้งนี้ของรัฐบาล จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ประชาชนกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเป็นผลทางด้านจิตใจ ซึ่งบริษัทไม่ได้คาดหวังว่ายอดขายจะเติบโตมหาศาล ขณะเดียวกัน บริษัทจะใช้โอกาสนี้ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัทให้ประชาชนได้ทดลองชิมด้วย ถือเป็นผลทางการตลาดอย่างหนึ่ง
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีให้มีความคึกคัก โดยผู้ประกอบการ ได้ร่วมมือกันขายสินค้าในราคาทุนไม่คิดเอากำไร เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ และคาดว่าจะมีการจัดงานลักษณะเดียวกันนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2558.  ที่มา http://www.thairath.co.th/content/471100

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น